The Wizard of Oz เตรียมฉายที่ Sphere ในรูปแบบ Immersive Experience สุดอลังการ
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางสู่ดินแดนมหัศจรรย์อีกครั้ง เพราะหนึ่งในภาพยนตร์คลาสสิกที่คนทั้งโลกรักอย่าง The Wizard of Oz กำลังจะถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้งที่ Sphere สถานที่จัดแสดงสุดล้ำแห่งลาสเวกัส แต่คราวนี้ไม่ได้แค่นั่งดูเฉย ๆ เหมือนในโรงหนังทั่วไป เพราะมันจะมาในรูปแบบ Fully Immersive Experience ที่จะพาคุณ “เข้าไปอยู่” ในโลกของโดโรธีจริง ๆ
งานนี้ไม่ใช่แค่การฉายหนังธรรมดา แต่เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสุดล้ำ ฉาก แสง สี เสียงแบบรอบทิศทาง และเอฟเฟกต์สุดพิเศษที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเดินทางข้ามสายรุ้งไปยังโลกแห่งออซด้วยตัวเองเลยทีเดียว
Sphere คืออะไร แล้วทำไมถึงพิเศษขนาดนี้
ก่อนจะไปถึงตัวหนัง เราต้องพูดถึงสถานที่จัดแสดงกันก่อน เพราะ Sphere ไม่ใช่โรงหนังธรรมดา ๆ แต่มันคือสถานที่จัดแสดงแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ในลาสเวกัส และมีชื่อเสียงในด้านเทคโนโลยีการฉายภาพและเสียงแบบ 360 องศา ภายในโดมขนาดยักษ์ที่จุผู้ชมได้หลายพันคน
จอภาพ LED ด้านใน Sphere ถือว่าเป็นหนึ่งในจอภาพที่ใหญ่และละเอียดที่สุดในโลก แถมระบบเสียงรอบทิศทางของที่นี่ก็สามารถส่งเสียงเฉพาะจุด ทำให้ผู้ชมแต่ละคนได้ยินเสียงเฉพาะของตัวเองอีกด้วย
การชมหนังที่ Sphere จึงไม่ได้เป็นแค่ “การดู” แต่เป็น “การเข้าไปมีส่วนร่วม” กับหนังอย่างเต็มที่
The Wizard of Oz: หนังอมตะที่ยังไม่เคยเก่า
The Wizard of Oz คือภาพยนตร์ที่ออกฉายครั้งแรกในปี 1939 กำกับโดย Victor Fleming และนำแสดงโดย Judy Garland ในบท “โดโรธี” เด็กสาวจากแคนซัสที่ถูกพายุพัดไปยังดินแดนมหัศจรรย์ และต้องออกเดินทางตามถนนอิฐสีเหลืองเพื่อตามหาพ่อมดแห่งออซ
ตลอดการเดินทาง เธอได้พบกับเพื่อนร่วมทางสุดประหลาด ได้แก่ มนุษย์ดีบุก สิงโตขี้กลัว และหุ่นไล่กาไร้สมอง ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังเรื่องนี้ และส่งอิทธิพลต่อวงการหนัง ดนตรี และวัฒนธรรมป๊อปมาจนถึงทุกวันนี้
ไม่ว่าจะเป็นเพลง “Somewhere Over the Rainbow” หรือฉากเปลี่ยนจากขาว-ดำไปสู่สีสันสดใส ก็ยังตราตรึงใจผู้ชมทั่วโลกไม่เสื่อมคลาย
เวอร์ชัน Sphere จะต่างจากของเดิมยังไง
แม้เนื้อเรื่องของ The Wizard of Oz จะยังคงเหมือนเดิม แต่เวอร์ชันที่จะฉายที่ Sphere นั้นจะถูกออกแบบใหม่ให้ “ทะลุจอ” อย่างแท้จริง
สิ่งที่แฟน ๆ จะได้สัมผัสคือ:
- การฉายภาพแบบ 360 องศา: ผู้ชมจะรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยลิงบินได้ หรือเดินบนถนนอิฐสีเหลืองเคียงข้างโดโรธี
- เสียงรอบทิศทางสุดแม่นยำ: ทุกเสียงฝีเท้า เสียงพายุ หรือเสียงร้องของลิง จะเหมือนดังกระซิบอยู่ข้างหู
- เอฟเฟกต์พิเศษในสถานที่: มีการใช้ลม แสง สี และแม้กระทั่งกลิ่น! เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสให้ผู้ชม “รู้สึกจริง” มากขึ้น
- ภาพที่คมชัดระดับ Ultra-HD: ทำให้รายละเอียดเล็ก ๆ อย่างผ้าของชุดโดโรธี หรือประกายดวงตาของหุ่นไล่กา ถูกถ่ายทอดออกมาแบบชัดเจนสุด ๆ
ทั้งหมดนี้ทำให้การชม The Wizard of Oz ที่ Sphere เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีทางสัมผัสได้จากจอโทรทัศน์ที่บ้านแน่นอน
เหมาะกับใคร
- แฟนหนังคลาสสิก ที่อยากย้อนกลับไปสัมผัสความทรงจำในวัยเด็กอีกครั้งแบบเต็มอารมณ์
- ครอบครัวและเด็ก ๆ ที่จะได้เปิดโลกจินตนาการในรูปแบบใหม่
- คนชอบเทคโนโลยีและประสบการณ์แปลกใหม่ ที่อยากลองอะไรนอกกรอบ
- นักท่องเที่ยวสายคัลเจอร์ ที่อยากหากิจกรรมสุดว้าวในลาสเวกัส
ทีมงานและการปรับปรุงเวอร์ชัน Sphere
การนำหนังเก่าอายุเกือบร้อยปีมาทำให้ทันสมัยและเข้ากับ Sphere ไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงานเบื้องหลังโปรเจกต์นี้ต้องใช้เทคนิคการรีมาสเตอร์ภาพและเสียงขั้นสูง รวมถึงทำแอนิเมชันเสริมและเทคนิค CG แบบใหม่ เพื่อเชื่อมต่อฉากให้ลื่นไหลในแบบ 360 องศา
มีการรายงานว่าใช้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากทั้งฮอลลีวูดและด้านเทคโนโลยี immersive โดยเฉพาะ เพื่อทำให้การฉาย The Wizard of Oz ครั้งนี้ออกมา “สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
เมื่ออดีตและอนาคตมาบรรจบกัน
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของโครงการนี้คือ มันเป็นการนำเอางานศิลปะจากยุคก่อนมาเล่าใหม่ด้วยเทคโนโลยีของอนาคต แต่ยังคงรักษาหัวใจของเรื่องเอาไว้อย่างครบถ้วน
โดโรธียังเป็นเด็กสาวที่กำลังหาทางกลับบ้าน หุ่นไล่กายังโง่น่ารัก สิงโตยังขี้กลัว แต่นี่คือเวอร์ชันที่เราจะ “สัมผัสได้จริง” ไม่ใช่แค่รับชมผ่านหน้าจอ
ใครจะไปคิดว่าหนังอายุเกือบ 100 ปี จะกลายเป็นประสบการณ์ใหม่สุดล้ำในปี 2025
The Wizard of Oz ที่ Sphere ไม่ใช่แค่การชมหนัง แต่คือการเดินทางผ่านโลกแห่งจินตนาการที่คุณจะไม่มีวันลืม เป็นการพิสูจน์ว่า “หนังดีไม่มีวันตาย” และเมื่อเทคโนโลยีมาถึงจุดที่สามารถขยายพลังของหนังได้ มันก็พร้อมจะพาเราข้ามพรมแดนของการรับชมแบบเดิม ๆ ไปอีกขั้น
สำหรับแฟน ๆ ที่อยากสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง เตรียมจองตั๋วไว้ได้เลย เพราะที่นั่งอาจเต็มเร็วมาก และถ้าคุณได้มีโอกาสไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโลกออซเวอร์ชัน immersive ครั้งนี้ อย่าลืม “คลิกส้นรองเท้าแล้วบอกตัวเองว่า ไม่มีที่ไหนอบอุ่นเท่าบ้านของเราอีกแล้ว”